ข่าวอาชญากรรม
วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
ทุบหัวน้ำมันราด ฆาเผาโหด ย่างสยองหนุ่มจยย.
ทุบหัวน้ำมันราด ฆาเผาโหด ย่างสยองหนุ่มจยย.
ฆ่าเผาโหดหนุ่มศรีเชียงใหม่ หนองคาย ลวงมาทุบแล้วจุดไฟเผาจนไหม้เกรียมทั้งคนทั้งรถจยย. สอบพบไปติดพันสาวเพิ่งเลิกกับผัว แต่ไม่ถึงเดือนผัวกลับมาง้อจนฝ่ายหญิงยอมกลับไปคืนดี ทว่าคนตายไม่ยอมเลิกราเทียวไปเฝ้าทุกวันจนกระทั่งกลายเป็นศพย่างสดสยองฆ่าเผาหนุ่มไหม้สยองพร้อมรถจักรยานยนต์ครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 17 ก.พ. พ.ต.ต.วิทยา ลีทอง พนักงานสอบสวน สภ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบศพถูกเผาใกล้คลองส่งน้ำ ระหว่างหมู่บ้านนาโพธิ์ และบ้านดงบัง ต.หนองปลาปาก จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพ.ต.ต.ประเวศ ภูบุญเต็ม นักวิทยาศาสตร์(สบ.2) สำนักงานตำรวจวิทยาการจังหวัดหนองคาย ที่เกิดเหตุพบศพชายถูกเผาจนไหม้เกรียม มีรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ไม่ทราบรุ่น ไฟไหม้เกือบทั้งคันทับศพ ฝาถังน้ำมันรถตกอยู่ข้างๆ ห่างจากศพประมาณ 10 เมตร พบท่อนไม้ยาวประมาณ 1 ฟุต มีคราบเลือดติดอยู่ ใกล้กับท่อนไม้มีก้นบุหรี่กรองทิพย์ทิ้งอยู่ 4 อัน และยังพบร่องรอยลากศพจากจุดที่พบท่อนไม้เปื้อนเลือดมายังจุดที่ศพถูกเผา จึงมอบศพให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยท่าบ่อนำส่งร.พ.ศรีเชียงใหม่ เพื่อพิสูจน์ตามระเบียบขั้นตอนต่อไปต่อมานางทองมี ใจขาน อายุ 60 ปี เข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อขอดูศพดังกล่าว ทันทีที่เห็นศพก็ยืนยันว่าผู้ตายคือนายอภิเชษฐ์ ใจขาน บุตรชาย ซึ่งเปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่เป็นนายสุรชาติ ปฏิธันยธร อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ 8 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย กำลังทำเรื่องเดินทางไปทำงานต่างประเทศนางทองมีให้การว่า ก่อนหน้าลูกชายจะเสียชีวิต ทราบว่าไปคบหากับน.ส.เอ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง บ้านอยู่หมู่บ้านเสียว ต.หนองปลาปาก โดยน.ส.เอเพิ่งเลิกกับสามี และมาคบกับลูกชายได้ประมาณ 1 เดือน ต่อมาสามีเก่าของน.ส.เอกลับมาง้อขอคืนดีจนสำเร็จ น.ส.เอจึงกลับไปอยู่กินกับสามีเก่า แต่ลูกชายไม่ยอมเลิกรายังคงวนเวียนไปเฝ้าน.ส.เอทุกวัน โดยไปตอนกลางวันหรือเย็นจนถึงค่ำแล้วค่อยกลับบ้าน กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาลูกชายขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านและไม่กลับเข้าบ้านจนผิดสังเกต เมื่อทราบข่าวมีคนถูกฆ่าจึงมาขอทราบรายละเอียดจากตำรวจ และกลายเป็นว่าคนตายคือลูกชายด้านพ.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า เบื้องต้นสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว คาดว่ากลุ่มคนร้ายไม่พอใจที่นายอภิเชษฐ์ไม่ยอมเลิกรากับน.ส.เอ จึงวางแผนล่อลวงไปเจรจายุติปัญหาหัวใจ โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 คน ลวงมาทางลัดระหว่างหมู่บ้านซึ่งเป็นจุดเปลี่ยวแล้วใช้ไม้ทุบตีจนแน่นิ่ง ยกรถจักรยานยนต์ทับร่าง เปิดฝาถังน้ำมันให้น้ำมันรถไหลออกมารดร่าง ก่อนจุดไฟเผาทั้งคนทั้งรถอย่างเหี้ยมโหด ขณะนี้เจ้าหน้าที่พอที่จะทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว กำลังเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อหาพยานหลักฐานมัดตัวมาดำเนินคดี
ตายคา"ช่อกุหลาบ" รัวฆ่า3ศพ
ตายคา"ช่อกุหลาบ" รัวฆ่า3ศพ
หนุ่มใหญ่สามล้อเครื่องรับจ้างหึงโหด คลั่งจ่อยิงหนุ่มกู้ภัยเมืองสุราษฎร์ดับคาบ้าน ก่อนจะยิงลูกสาวตัวเองดับ 1 สาหัส 1 หลังแยกทางกับเมียเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยเข้าใจว่านอกใจไปมีสัมพันธ์กับหนุ่มกู้ภัย ถึงขั้นทะเลาะลงไม้ลงมือกัน ถือโอกาสวันวาเลนไทน์หอบกุหลาบช่อใหญ่กลับเข้าบ้านจะขอคืนดีกับอดีตเมีย แต่ไม่ยอม เลยคลั่งเอาปืนไล่ยิงดับหนุ่มข้างบ้าน ลูกสาวดับ 1 สาหัส 1 ก่อนลั่นกระสุนเข้าหัวฆ่าตัวหนีความผิดเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 15 ก.พ. ร.ต.ท.อำนาจ กำพล ร้อยเวรสภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุยิงกันตายมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่บ้านเลขที่ 234/13 ซ.ชนเกษม 34 หมู่1 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา ผกก. พ.ต.ท.สุวัฒน์ สุขศรี รองผกก.ป. พ.ต.ท.วรวิทย์ เจริญศุภผล สว.สส., พ.ต.ต.โยธินทร์ สิทธิโยธี สว.สป. เจ้าหน้าที่วท.เขต 42 เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานีที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่สุดซอย ด้านหลังบ้านพบศพนายเดโช ดำมุนี อายุ 44 ปี อาชีพขับรถสามล้อเครื่องรับจ้าง สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายสกอตสีน้ำเงิน-ขาว กางเกงขายาวสีเทา ถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 ม.ม.เข้าขมับขวาทะลุขมับซ้าย 1 นัด ใกล้กันพบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่ 1 กระบอก และศพน.ส.มธุรดา ดำมุนี อายุ 18 ปี ลูกสาว นักเรียนชั้นม.6 โรงเรียนพัชรกิติยาภา อยู่บ้านเลขที่หลังดังกล่าว นอนคว่ำหน้าสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา กางเกงขาสั้นลายดอกไม้สีแดง ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน 5 ปลอก ดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ 1 ช่อ
นอกจากนี้ที่หน้าบ้านเลขที่ 234 หมู่1 ต.มะขามเตี้ย ของนายมณเฑียร อู่สุวรรณ อายุ 32 ปี ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร พบรอยเลือดกองใหญ่ ซองปืนสีดำ ปลอกกระสุนปืน 1 ปลอก ทราบว่ามีผู้ถูกยิงเข้าบริเวณศีรษะได้รับบาดเจ็บสาหัสคือนายมณเฑียร เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา และมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บสาหัสอีก 1 รายคือน.ส.เมธินี ดำมุนี อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นปวช.1 วิทยาลัยอาชีวะสุราษฎร์ธานี ลูกสาวคนเล็กของนายเดโชถูกยิงเข้าที่หน้าท้อง 2 นัด บาดเจ็บสาหัสจากการสอบสวนทราบว่านายเดโชแต่งงานอยู่กินกับนางสุกัญญา เวชรังศรี อายุ 46 ปี มานานหลายปี กระทั่งมีลูกสาวด้วยกัน 2 คนคือน.ส.มธุรดา และน.ส.เมธินี ดำมุนี แต่ระยะหลังทั้งคู่มักมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันมาโดยตลอด ถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน เนื่องจากนายเดโชคิดว่านางสุกัญญาคบชู้กับนายมณเฑียรเพื่อนบ้าน จนนางสุกัญญาทนไม่ไหวขอแยกทางด้วย โดยนายเดโชยอมแยกทาง แต่เรียกร้องเงิน 1 แสนบาทจากนางสุกัญญาเพื่อไปตั้งต้นใหม่ และนางสุกัญญาก็ยอมจ่ายเงินดังกล่าวให้ไปเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุค่ำวันที่ 14 ก.พ. นายเดโชได้ใช้โอกาสวันวาเลนไทน์นำดอกกุหลาบช่อใหญ่มาขอคืนดีกับนางสุกัญญา อดีตภรรยา แต่ถูกปฏิเสธไม่ยินยอมคืนดีด้วย จึงมีปากเสียง จนนายเดโชขาดสติใช้อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.ที่เตรียมมาไล่ยิงนางสุกัญญา แต่โชคดีวิ่งหลบหนีไปได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นนายเดโชเดินเข้าไปในบ้านนายมณเฑียร ที่เข้าใจว่าเป็นคนรักใหม่ของนางสุกัญญา และเป็นสาเหตุที่ทำให้นางสุกัญญาไม่ยอมคืนดีกับตน ใช้ปืนยิงนายมณเฑียร 1 นัดแล้วย้อนกลับเข้าบ้านของตนเองพบลูกสาวทั้ง 2 ตนจึงใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงลูกทั้ง 2 คน แล้วใช้อาวุธกระบอกเดียวกันจ่อยิงที่ศีรษะตัวเองเสียชีวิตคาที่เพื่อหนีความผิด
มือปืนฆ่า 7 ศพในมหาวิทยาลัย เป็นนศ.เกียรตินิยม
มือปืนฆ่า 7 ศพในมหาวิทยาลัย เป็นนศ.เกียรตินิยม
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานวันนี้ (16 ก.พ.) ตามเวลาในประเทศไทย ว่า ตำรวจได้เปิดเผยชื่อมือปืนที่ก่อเหตุกราดยิงภายในมหาวิทยาลัยในรัฐอิลลินอยส์ สหรัฐฯ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 7 คนแล้ว โดยมือปืนคือ นายสตีเฟน คัซเมียร์ซัค วัย 27 ปี เคยเป็นนักศึกษาภาควิชาสังคมวิทยาของมหาวิทยาลัยนอร์ธเทิร์น อิลลินอยส์ (เอ็นไอยู) ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุเมื่อปีก่อน และจบการศึกษาไปแล้วด้วยผลการเรียนระดับเกียรตินิยม ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ที่เออร์บานา-ชอมปาญ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบว่าเหตุใดเขาจึงใช้อาวุธปืน 3 กระบอกกราดยิงผู้คนภายในห้องบรรยายของมหาวิทยาลัย จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 6 คน และอีก 15 คนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะยิงตัวตาย โดยในที่เกิดเหตุ ตำรวจพบปลอกกระสุน 48 ปลอก การตรวจสอบล่าสุดยังพบว่า นายคัซเมียร์ซัค พกอาวุธปืนไว้เตรียมก่อเหตุถึง 5 กระบอก เจ้าหน้าที่ยอมรับว่า ยังไม่ทราบแรงจูงใจที่ทำให้นายคัซเมียร์ซัค ก่อเหตุสะเทือนขวัญ แต่เบื้องต้นทราบว่า เขาหยุดทานยารักษาอาการเจ็บป่วยบางอย่างเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้เขามีอาการผิดปกติและอารมณ์แปรปรวนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะก่อเหตุกราดยิงในที่สุด
เฒ่า66หึงโหดฆ่ายายวัย77ก่อนผูกคอตายตาม
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
สาเหตุคิดมาก กลัวคู่ชีวิตปันใจให้ข้าราชเกษียณ ที่นำหลานมาให้เลี้ยง
เกิดเหตุฆาตกรรม 2 ศพ ในบ้านเลขที่ 46 หมู่ 4 ต.ศรีมหาโพธิ์ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ต.ต.พีรรัตน์ ตันธนชัย พนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.อนุรักษ์ นาคพนม ผกก.สภ.นครชัยศรี และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง ได้ไปตรวจสอบ พบว่าเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง ที่ใต้ถุนบ้านพบศพ นายกี เกิดศรีเพ็ง อายุ 66 ปี สวมใส่เสื้อยืดคอปกสีเทาอ่อน กางเกงยีน ใช้สายไฟผูกคอกับขื่อไม้
นอกจากนี้ ที่บนบ้านยังพบศพ นางบุญมี ภานุรักษ์ อายุ 77 ปี เจ้าของบ้าน สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน ผ้าถุงลายดอกสีดำ ลำคอมีรอยถูกรัดด้วยเชือกจนเขียวคล้ำ คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง
พ.ต.ท.พีรรัตน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า ทั้งสองตกลงอยู่กินกันมาได้ 6 เดือน นายกีรักนางบุญมีมาก ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน แต่จากการตรวจสภาพศพและสิ่งแวดล้อมเชื่อว่า นายกีเป็นคนลงมือฆ่านางบุญีเสียชีวิต แล้วผูกคอตายตาม พ.ต.อ.อนุรักษ์ กล่าวว่า สาเหตุการตายของทั้งสองเชื่อว่า นายกีเกิดความหึงหวงนางบุญมี เนื่องจากระยะหลังมีเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นข้าราชการเกษียณ อายุกว่า 60 ปี นำหลานสาววัย 2 ขวบ มาฝากให้นางบุญมีเลี้ยงเป็นประจำ ระหว่างพาหลานมาฝากเลี้ยงก็มักจะพูดคุยกัน ทำให้นายกีเกิดความหึงหวง โดยเคยบ่นให้เพื่อนฟังว่า ข้าราชการเกษียณคนดังกล่าวอาจจะมาชอบพอภรรยาของตน จึงเอาหลานมาฝากเลี้บง ขณะเดียวกันก็เกรงว่านางบุญมีจะปันใจให้เพื่อนบ้าน
"คืนเกิดเหตุสองตายายอยู่บ้านตามลำพัง ไฟเปิดตั้งแต่หัวค่ำจนถึงตี 3 กว่า คาดว่าช่วงหัวค่ำนายกีคิดมาก จึงหาทางออกด้วยการใช้สายไฟรัดคอนางบุญมี จากนั้นก็นั่งเฝ้าศพจนถึงตี 3 ดับไฟแล้วลงมาใช้สายไฟเส้นเดียวกันผูกคอตายตาม" พ.ต.อ.อนุรักษ์ กล่าว
คนร้ายแบกเอ็ม16 ยิงถล่มอริเหยื่อสาวรับเคราะห์แทน
คนร้ายแบกเอ็ม16 ยิงถล่มอริเหยื่อสาวรับเคราะห์แทน
คนร้ายใช้ปืนเอ็ม 16 บุกยิงคู่อริเก่าถึงบ้านพัก แต่ยิงผิดตัว กระสุนถูกสาว ปวช.ดับร่างเละ ขณะที่เป้าหมายกระสุนตัวจริงเป็นโจ๋วัย 19 พบประวัติคดีติดตัวอื้อ
เมื่อเวลา 00.45 น.วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ต.ท.สมศักดิ์ ธานีรัตน์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ย่อยมหาชัย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายด้วยอาวุธสงครามร้ายแรงและมีผู้เสียชีวิตที่หน้าบ้านเลขที่ 70 ม.4 ต.ไชยมนตรี อ.เมือง หลังจากนั้นจึงเข้าทำการสอบสวนในที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ญาณพัฒน์ นรสิงห์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พ.ต.ท.ธวัชชัย ดุกสุขแก้ว รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.สมชาย มวยดี สวป. เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยประชาร่วมใจและแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราช เข้าร่วมร่วมตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว พบศพ น.ส.วนิศรา สุทธิสมบูรณ์ อายุ 17 ปี ภูมิลำเนาอยู่พื้นที่ ม.10 ต.ละอาย อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เป็นนักศึกษาชั้น ปวช. 2 แผนกบัญชี โรงเรียนเทคนิคธุรกิจบัณฑิต นอนเสียชีวิตในลักษณะคว่ำหน้า สวมชุดนักศึกษา โดยมีนายอนิรุทธ์ ภักดีจิตร อายุ 19 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย น.ส.อ้อม(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี แฟนสาวของนายอนิรุทธ์ และเป็นเพื่อนของ น.ส.วนิศรา ผู้ตาย ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตกใจสุดขีด
จากการชันสูตรพลิกศพ น.ส.วนิศรา พบว่ามีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนเอ็ม 16 เข้าที่ท้ายทอยจนกะโหลกศีรษะเปิด มันสมองกระจายเกลื่อนบริเวณ แขนซ้ายถูกกระสุนจนเกือบขาด แผ่นหลังถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกัน ส่วนที่ขาซ้ายถูกกระสุนปืนขนาดเดียวกันเป็นแผลกว้างเหวอะหวะกระดูกแตกละเอียด ในซอกข้างบ้านพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน ขงษ 61 นครศรีธรรมราช จอดอยู่ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 30 เมตร เป็นป่าละเมาะริมทุ่งนา คาดว่าเป็นจุดที่คนร้ายมาดักซุ่มยิงถล่มโหด เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่จำนวน 9 ปลอก จึงนำศพส่งโรงพยาบาลมหาราช เพื่อให้แพทย์ผ่าตัดเอาหัวกระสุนปืนเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบคดีต่อไป
จากการสอบประมวลเหตุการณ์ในเบื้องต้นของตำรวจ ทราบว่า น.ส.วนิศรา ผู้ตาย กับ น.ส.อ้อม เป็นเพื่อนรักกันและเรียนอยู่ห้องเดียวกัน ก่อนเกิดเหตุ น.ส.อ้อม ได้ชักชวน น.ส.วนิศรา ผู้ตายมาเที่ยวบ้านนายอนิรุทธิ์ แฟนหนุ่ม ซึ่งญาติๆที่มีบ้านอยู่ใกล้กันกำลังร่วมกันกวนข้าวมธุปายาส เพื่อร่วมในงานประเพณี”มาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ” ประจำปี 2551 ของจังหวัดนครศรีธรรมราช
โดยนายอนิรุทธ์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับ น.ส.อ้อม แฟนสาว และ น.ส.วนิศรา ผู้ตายที่หอพัก เมื่อมาถึงบ้าน นายอนิรุทธ์ ได้นำรถจักรยานยนต์เข้าไปจอดในซอกข้างบ้าน ในขณะที่ น.ส.วนิศรา ผู้ตาย เดินมาไขกุญแจบ้าน จากนั้นได้มีเสียงปืนดังขึ้นชุดใหญ่ กระสุนพุ่งเจาะร่างของ น.ส.วนิศรา จนกระเด็นไปตามแรงกระแทกของกระสุน หลังสิ้นเสียงปืน คนร้ายได้วิ่งตัดทุ่งนาไปที่ถนนใหญ่ พร้อมกับยิงปืนข่มขู่ขึ้นฟ้าอีก 1 ชุดใหญ่ ก่อนพากันขึ้นรถยนต์กระบะที่จอดรออยู่ขับหลบหนีไปในความมืด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญนายอนิรุทธ์ และ น.ส.อ้อม มาสอบสวนปากคำ พร้อมตรวจสอบประวัติของนายอนิรุทธ์ ซึ่งพบว่านายอนิรุทธ์ มีประวัติที่รู้จักกันในวงการอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ยังพบว่า มารดาค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ จนเมื่อ 2 ปีก่อน มารดาของนายอนิรุทธ์ ถูกตำรวจจับกุมพร้อมของกลางยาบ้าจำนวนมาก และถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ในปัจจุบันถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ส่วนบิดาของนายอนิรุทธ์ มีภรรยาใหม่อยู่ในพื้นที่ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ทำให้บ้านหลังที่เกิดเหตุมีเพียงนายอนิรุทธ์ อาศัยอยู่กับน้องสาวอีก 2 คนเท่านั้น
ในขณะที่นายอนิรุทธ์ เองก็เคยถูกตำรวจจับกุมในข้อหาฆ่าคนตาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการประกันตัวสู้คดี และเมื่อไม่นานมานี้ นายอนิรุทธ์ ถูกมือปืนตามยิงถล่ม แต่รอดตายมาได้ โดยลูกชายผู้ใหญ่บ้านชื่อดังคนหนึ่งรับเคราะห์แทน และนายอนิรุทธ์ กลายเป็นพยานปากเอกที่ยืนยันถึงตัวมือปืนอย่างชัดเจน จนตำรวจสามารถออกหมายจับมือปืนได้ แต่มือปืนให้การปฏิเสธ และศาลได้นัดไต่สวนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคู่อริเก่า ที่ต้องการฆ่านายอนิรุทธ์ เพื่อล้างแค้น และเพื่อปิดปากในคดีที่คนร้ายยิงถล่มนายอนิรุทธ์ แต่ลูกชายผู้ใหญ่บ้านรับเคราะห์ตายแทน ซึ่งนายอนิรุทธ์ เป็นพยานปากเอกในคดีดังกล่าว แต่ก็ยังถือว่านาย อนิรุทธ์ ยังโชคดี เพราะขณะเกิดเหตุ น.ส.วนิศรา ได้เดินมาไขกุญแจบ้านนายอนิรุทธ์ ทำให้มือปืนเข้าใจว่า น.ส.วนิศรา คือ นายอนิรุทธ์ เนื่องจากจุดเกิดเหตุมืดมากคนร้ายจึงมองไม่เห็น จึงรัวยิงถล่มใส่ ทำให้ น.ส.วนิศรา กลายเป็นเป้ากระสุนอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นความขัดแย้งผลประโยชน์เรื่องยาเสพติดที่มีการหักหลังกันเนื่องจากประเด็นนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงเช่นเดียวกัน เพราะแม้มารดาของนายอนิรุทธิ์จะถูกจับกุมติดคุกไปแล้วแต่นายอนิรุทธ์ และ น.ส.อ้อม แฟนสาวก็ยังมีพฤติกรรมค้ายาบ้าจนเมื่อหลายวันก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว น.ส.อ้อม แฟนสาวของนายอนิรุทธ์ ได้พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 100 เม็ด และอยู่ระหว่างการประกันตัวสู้คดีในชั้นศาล จึงเป็นอาจจะมีการหักหลังกันในการค้ายาบ้า
พ.ต.ต.สมชาย มวยดี สวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า นายอนิรุทธ์ เป้าสังหารรายนี้ประวัติ เกี่ยวพันกับการค้ายาเสพติด โดยแม่ของนายอนิรุทธ์ ก็ถูกจับกุมคดีค้ายาเสพติดศาลสั่งจำคุก 2 ปี ล่าสุด น.ส.อ้อม แฟนสาวของนายอนิรุทธ์ ถูกจับกุมพร้อมยาบ้ากว่า 100 เม็ด อยู่ระหว่างการประกันตัว และนายอนิรุทธ์ ยังต้องคดีฆ่าคนตายอย่าระหว่างการประกันตัวสู้คดีเช่นกัน หลังจากได้รับการประกันตัวคืนแรกคู่อริก็มาดักยิงถล่มนายอนิรุทธ์ ที่บริเวณสะพานวังรัก ต.ไชยมนตรี จนลูกชายผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งรับเคราะห์ตายแทนนายอนิรุทธ์ จึงเป็นพยานปากเอก ชี้ตัวยืนยันมือปืนจนตำรวจสามารถออกหมายจับกุมมือปืนได้ และศาลนัดไตร่สวนมูลฟ้องในเร็ว ๆ นี้
“เป้าสังหารในครั้งนี้อยู่ที่นายอนิรุทธ์ ไม่ใช่ น.ส.นริศรา และเป็นคู่อริคนเดิมที่ตามสังหารนายอนิรุทธ์ จนลูกผู้ใหญ่บ้านรับเคราะห์แทน โดยก่อนเกิดเหตุ 2-3 วันคู่อริคนดังกล่าวได้พาพรรคพวกมาวนเวียนในพื้นที่เกิดเหตุหลายครั้ง โดยมีจำนวน 2-3 คน เป็นลูกชายของผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งใน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังไปยังบ้านของผู้ต้องสงสัย แต่ผู้ต้องสงสัยพร้อมพวกไหวตัวทันจึงยังไม่ยอมเข้าบ้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน คาดว่าจะเสนอขอหมายจับกุมจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ในวัน สองวันนี้อย่างแน่นอนและจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป“ พ.ต.ท.สมชาย กล่าว
คนร้ายใช้ปืนเอ็ม 16 บุกยิงคู่อริเก่าถึงบ้านพัก แต่ยิงผิดตัว กระสุนถูกสาว ปวช.ดับร่างเละ ขณะที่เป้าหมายกระสุนตัวจริงเป็นโจ๋วัย 19 พบประวัติคดีติดตัวอื้อ
เมื่อเวลา 00.45 น.วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ต.ท.สมศักดิ์ ธานีรัตน์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ย่อยมหาชัย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายด้วยอาวุธสงครามร้ายแรงและมีผู้เสียชีวิตที่หน้าบ้านเลขที่ 70 ม.4 ต.ไชยมนตรี อ.เมือง หลังจากนั้นจึงเข้าทำการสอบสวนในที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ญาณพัฒน์ นรสิงห์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พ.ต.ท.ธวัชชัย ดุกสุขแก้ว รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.สมชาย มวยดี สวป. เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยประชาร่วมใจและแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราช เข้าร่วมร่วมตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว พบศพ น.ส.วนิศรา สุทธิสมบูรณ์ อายุ 17 ปี ภูมิลำเนาอยู่พื้นที่ ม.10 ต.ละอาย อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เป็นนักศึกษาชั้น ปวช. 2 แผนกบัญชี โรงเรียนเทคนิคธุรกิจบัณฑิต นอนเสียชีวิตในลักษณะคว่ำหน้า สวมชุดนักศึกษา โดยมีนายอนิรุทธ์ ภักดีจิตร อายุ 19 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย น.ส.อ้อม(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี แฟนสาวของนายอนิรุทธ์ และเป็นเพื่อนของ น.ส.วนิศรา ผู้ตาย ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตกใจสุดขีด
จากการชันสูตรพลิกศพ น.ส.วนิศรา พบว่ามีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนเอ็ม 16 เข้าที่ท้ายทอยจนกะโหลกศีรษะเปิด มันสมองกระจายเกลื่อนบริเวณ แขนซ้ายถูกกระสุนจนเกือบขาด แผ่นหลังถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกัน ส่วนที่ขาซ้ายถูกกระสุนปืนขนาดเดียวกันเป็นแผลกว้างเหวอะหวะกระดูกแตกละเอียด ในซอกข้างบ้านพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน ขงษ 61 นครศรีธรรมราช จอดอยู่ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 30 เมตร เป็นป่าละเมาะริมทุ่งนา คาดว่าเป็นจุดที่คนร้ายมาดักซุ่มยิงถล่มโหด เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่จำนวน 9 ปลอก จึงนำศพส่งโรงพยาบาลมหาราช เพื่อให้แพทย์ผ่าตัดเอาหัวกระสุนปืนเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบคดีต่อไป
จากการสอบประมวลเหตุการณ์ในเบื้องต้นของตำรวจ ทราบว่า น.ส.วนิศรา ผู้ตาย กับ น.ส.อ้อม เป็นเพื่อนรักกันและเรียนอยู่ห้องเดียวกัน ก่อนเกิดเหตุ น.ส.อ้อม ได้ชักชวน น.ส.วนิศรา ผู้ตายมาเที่ยวบ้านนายอนิรุทธิ์ แฟนหนุ่ม ซึ่งญาติๆที่มีบ้านอยู่ใกล้กันกำลังร่วมกันกวนข้าวมธุปายาส เพื่อร่วมในงานประเพณี”มาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ” ประจำปี 2551 ของจังหวัดนครศรีธรรมราช
โดยนายอนิรุทธ์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับ น.ส.อ้อม แฟนสาว และ น.ส.วนิศรา ผู้ตายที่หอพัก เมื่อมาถึงบ้าน นายอนิรุทธ์ ได้นำรถจักรยานยนต์เข้าไปจอดในซอกข้างบ้าน ในขณะที่ น.ส.วนิศรา ผู้ตาย เดินมาไขกุญแจบ้าน จากนั้นได้มีเสียงปืนดังขึ้นชุดใหญ่ กระสุนพุ่งเจาะร่างของ น.ส.วนิศรา จนกระเด็นไปตามแรงกระแทกของกระสุน หลังสิ้นเสียงปืน คนร้ายได้วิ่งตัดทุ่งนาไปที่ถนนใหญ่ พร้อมกับยิงปืนข่มขู่ขึ้นฟ้าอีก 1 ชุดใหญ่ ก่อนพากันขึ้นรถยนต์กระบะที่จอดรออยู่ขับหลบหนีไปในความมืด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญนายอนิรุทธ์ และ น.ส.อ้อม มาสอบสวนปากคำ พร้อมตรวจสอบประวัติของนายอนิรุทธ์ ซึ่งพบว่านายอนิรุทธ์ มีประวัติที่รู้จักกันในวงการอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ยังพบว่า มารดาค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ จนเมื่อ 2 ปีก่อน มารดาของนายอนิรุทธ์ ถูกตำรวจจับกุมพร้อมของกลางยาบ้าจำนวนมาก และถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ในปัจจุบันถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ส่วนบิดาของนายอนิรุทธ์ มีภรรยาใหม่อยู่ในพื้นที่ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ทำให้บ้านหลังที่เกิดเหตุมีเพียงนายอนิรุทธ์ อาศัยอยู่กับน้องสาวอีก 2 คนเท่านั้น
ในขณะที่นายอนิรุทธ์ เองก็เคยถูกตำรวจจับกุมในข้อหาฆ่าคนตาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการประกันตัวสู้คดี และเมื่อไม่นานมานี้ นายอนิรุทธ์ ถูกมือปืนตามยิงถล่ม แต่รอดตายมาได้ โดยลูกชายผู้ใหญ่บ้านชื่อดังคนหนึ่งรับเคราะห์แทน และนายอนิรุทธ์ กลายเป็นพยานปากเอกที่ยืนยันถึงตัวมือปืนอย่างชัดเจน จนตำรวจสามารถออกหมายจับมือปืนได้ แต่มือปืนให้การปฏิเสธ และศาลได้นัดไต่สวนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคู่อริเก่า ที่ต้องการฆ่านายอนิรุทธ์ เพื่อล้างแค้น และเพื่อปิดปากในคดีที่คนร้ายยิงถล่มนายอนิรุทธ์ แต่ลูกชายผู้ใหญ่บ้านรับเคราะห์ตายแทน ซึ่งนายอนิรุทธ์ เป็นพยานปากเอกในคดีดังกล่าว แต่ก็ยังถือว่านาย อนิรุทธ์ ยังโชคดี เพราะขณะเกิดเหตุ น.ส.วนิศรา ได้เดินมาไขกุญแจบ้านนายอนิรุทธ์ ทำให้มือปืนเข้าใจว่า น.ส.วนิศรา คือ นายอนิรุทธ์ เนื่องจากจุดเกิดเหตุมืดมากคนร้ายจึงมองไม่เห็น จึงรัวยิงถล่มใส่ ทำให้ น.ส.วนิศรา กลายเป็นเป้ากระสุนอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นความขัดแย้งผลประโยชน์เรื่องยาเสพติดที่มีการหักหลังกันเนื่องจากประเด็นนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงเช่นเดียวกัน เพราะแม้มารดาของนายอนิรุทธิ์จะถูกจับกุมติดคุกไปแล้วแต่นายอนิรุทธ์ และ น.ส.อ้อม แฟนสาวก็ยังมีพฤติกรรมค้ายาบ้าจนเมื่อหลายวันก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว น.ส.อ้อม แฟนสาวของนายอนิรุทธ์ ได้พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 100 เม็ด และอยู่ระหว่างการประกันตัวสู้คดีในชั้นศาล จึงเป็นอาจจะมีการหักหลังกันในการค้ายาบ้า
พ.ต.ต.สมชาย มวยดี สวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า นายอนิรุทธ์ เป้าสังหารรายนี้ประวัติ เกี่ยวพันกับการค้ายาเสพติด โดยแม่ของนายอนิรุทธ์ ก็ถูกจับกุมคดีค้ายาเสพติดศาลสั่งจำคุก 2 ปี ล่าสุด น.ส.อ้อม แฟนสาวของนายอนิรุทธ์ ถูกจับกุมพร้อมยาบ้ากว่า 100 เม็ด อยู่ระหว่างการประกันตัว และนายอนิรุทธ์ ยังต้องคดีฆ่าคนตายอย่าระหว่างการประกันตัวสู้คดีเช่นกัน หลังจากได้รับการประกันตัวคืนแรกคู่อริก็มาดักยิงถล่มนายอนิรุทธ์ ที่บริเวณสะพานวังรัก ต.ไชยมนตรี จนลูกชายผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งรับเคราะห์ตายแทนนายอนิรุทธ์ จึงเป็นพยานปากเอก ชี้ตัวยืนยันมือปืนจนตำรวจสามารถออกหมายจับกุมมือปืนได้ และศาลนัดไตร่สวนมูลฟ้องในเร็ว ๆ นี้
“เป้าสังหารในครั้งนี้อยู่ที่นายอนิรุทธ์ ไม่ใช่ น.ส.นริศรา และเป็นคู่อริคนเดิมที่ตามสังหารนายอนิรุทธ์ จนลูกผู้ใหญ่บ้านรับเคราะห์แทน โดยก่อนเกิดเหตุ 2-3 วันคู่อริคนดังกล่าวได้พาพรรคพวกมาวนเวียนในพื้นที่เกิดเหตุหลายครั้ง โดยมีจำนวน 2-3 คน เป็นลูกชายของผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งใน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังไปยังบ้านของผู้ต้องสงสัย แต่ผู้ต้องสงสัยพร้อมพวกไหวตัวทันจึงยังไม่ยอมเข้าบ้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน คาดว่าจะเสนอขอหมายจับกุมจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ในวัน สองวันนี้อย่างแน่นอนและจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป“ พ.ต.ท.สมชาย กล่าว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)